“แห่งแรกในภาคอีสาน” เตรียมผุดนิคมอุตสาหกรรมฯ ช่วยคนมีงานทำ

แห่งแรกในภาคอีสาน เตรียมผุดนิคมอุตสาหกรรมฯ หมดปัญหาทำงานไกลบ้าน

เป็นอีกหนึ่งข่าวสารดีๆ สำหรับใครหลายคนจะเห็นได้ว่าคนใช้แรงชาวอีสานหลายคนเดินทางจากบ้าน เพื่อเข้าทำงานที่ นิคมอุตสาหกรรม ตามโรงงานมากมาย ซึ่งเมืองใหญ่เป็นเขตเศรษฐกิจที่สำคัญ เป็นศูนย์รวมหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน รวมทั้งสถาบันการศึกษามากมาย นอกจากนี้ยังเพียบพร้อมไปด้วยสาธารณูปโภคต่างๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่ประชากรส่วนใหญ่ต้องการย้ายถิ่นเข้ามาพำนักพักอาศัยและทำงาน ซึ่งการอยู่ห่างบ้านเกิดแบบนี้ แน่นอนว่าหลายคนคิดถึงบ้านอยากจะทำงานใกล้บ้านของตัวเอง

ล่าสุด การจัดตั้งนิคมอุตสาหกຮຮมดังกล่าวถือว่ามีความคืบหน้าเป็นลำดับ โดย บริษัท อุบลราชธานีอินดัสตรี้ จำกัด ในฐานะผู้ดำเนินโครงการ ได้ดึงพันธมิตรจากญี่ปุ่น 3 ราย ได้แก่ บริษัท ไคไก แอดไวซอรี่ จำกัด บริษัท เวลเนสไลฟ์โปรเจ็ค ไทยแลนด์ จำกัด และบริษัท เอเชี่ยนไดนามิค คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ร่วมจัดตั้งนิคมฯ ด้วยงบการลงทุนกว่า 2,700 ล้านบาท

สำหรับนิคมฯ แห่งนี้ จะใช้เงินลงทุนพัฒนาราว 2,700 ล้านบาท บนเนื้อที่ 2,300 ไร่ เพื่อรองรับกลุ่มอุตสาหกຮຮมเป้าหมายที่ภาครัฐพยๅยามผลักดันให้เกิดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกຮຮมเกษตรแปรรูป อุตสาหกຮຮมเทคโนชีวภาพ อุตสาหกຮຮมการท่องเที่ยวข้ามแดน อุตสาหกຮຮมการบริการ อุตสาหกຮຮมด้านสุขภาพ, อุตสาหกຮຮมอุปกรณ์ทางการเกษตร อุตสาหกຮຮมเครื่องมือและยานยนต์ที่ใช้ในการเกษตร เป็นต้น

ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขอปรับเปลี่ยนผังเมืองการใช้ประโยชน์ที่ดินจากสีเขียวเป็นสีม่วงกับกรมโยธาธิการและผังเมือง ควบคู่กับการจัดทำรายงานศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม อีไอเอ และหลังจากนั้นจะยื่นเรื่องไปยังการนิคมอุตสาหกຮຮมแห่งประเทศไทย เพื่อจัดตั้งเป็นนิคมร่วมดำเนินการต่อไป

ทั้งนี้ นิคมฯ ดังกล่าวยังจะเป็นฐานการเชื่อมโยงการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย ที่นักลงทุนต่าง ๆ จะสามารถกระจายสินค้าจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปสู่ภูมิภาคอื่น ๆ ได้อย่างสะดวก เนื่องจาก จังหวัดอุบลราชธานี นั้น เป็นหนึ่งในจังหวัดเขตอีสานใต้ที่มีความเหมาะสมและมีศักยภาพ มีประชากรกว่า 180,0000 ล้านคน และหากรวมกับจังหวัดในอีสานใต้จะมีประชากรกว่า 10 ล้านคน

โดยเชื่อว่าภายหลังการพัฒนานิคมอุตสาหกຮຮมอุบลราชธานีขึ้นมา จะกระตุ้นให้เกิดกระแสหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจในเขตไม่ต่ำกว่า 2,0000 ล้านบาท และก่อให้เกิดการสร้างงานราว 20,000 อัตรา ได้ภายในปี 2665