เพื่อนบ้านต่อปล่องดูดควันใส่หลังบ้าน มาเต็มทั้งควัน-กลิ่น

ปัญห าโลกแ ตก เจอเพื่อนบ้านต่อปล่องดูดควันทำกับข้าว ใส่หลังบ้าน มาเต็มทั้งควัน-กลิ่น บอกให้ช่วยแก้ไข กลับโดนไล่ไปฟ้องเอา เพราะมาอยู่ก่อน

ปัญหาเพื่อนบ้าน เป็นปัญหาใหญ่ ใครเจอเพื่อนบ้านดีเหมือนถูกหวยรางวัลที่ 1 แต่ถ้าไม่อาจเจอเรื่องปวดหัวได้ไม่หยุด เช่นเดียวกับกรณีของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเฟซบุ๊กเพจ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 3” นำมาแชร์ต่อ หลังสอบถามเข้ามาว่า ถ้าเจอเพื่อนบ้านแบบนี้ จะทำอย่างไรดี เพราะต่อปล่องควันทำกับข้าวจ่อมาทางหลังบ้าน โดยขอวิธีแบบประนีประนอมกับเพื่อนบ้านที่ชอบแบ่งปัน

โดยเล่าว่า ด้วยความตั้งใจอยากได้บ้านที่เงียบสงบ ไม่อยากทะเลาะกับเพื่อนบ้าน ไม่ต้องเจอมนุษย์ป้ามนุษย์ลุงเรื่องที่จอดรถ เลยตัดสินใจกับแม่บ้านว่า ซื้อทาวน์โฮมที่เป็นโซน Private ซึ่งหน้าบ้านไม่ตรงกับใคร เพราะเป็นกำแพง และเป็นซอยสุดท้ายของโครงการ เป็นบ้านหลังมุม ซึ่งเพื่อนบ้านด้านขวาบอกเลยเป็นคุณลุงที่น่ารักมากๆ สรุปหน้าบ้าน ด้านข้างโอเค แต่สุดท้ายดันมาเจอปัญหาหลังบ้าน

ด้วยปัญหาที่เกิด คือบ้านอีกหลังด้านท้าย (หลังชนกัน) ซึ่งบ้านเค้าต่อเติมครัวขึ้นมา อันนี้ไม่ว่าเพราะส่วนใหญ่ใครก็ทำ แต่ประเด็นคือ ดันต่อฮู้ดดูดควันและพัดลมระบายอากาศห้องครัวของตัวเอง จัดตำแหน่งให้ปล่องควันหันออกมาที่บ้านเราเต็มๆ

วันดีคืนดี ทำกับข้าว ทั้งกลิ่นทั้งควันมาครบ ยิ่งเป็นผัดพริกแกง ผัดกระเพรา แล้วด้วย บอกเลยน้ำหู น้ำตาไหล ไอจามกันยาวๆ

เราก็ได้แจ้งนิติฯ โครงการ เพื่อให้เพื่อนบ้านทำการแก้ไข ตั้งแต่มาดูและตัดสินใจซื้อ โดยทางนิติฯ แจ้งว่าเตือนให้แล้ว 3 ครั้ง ตั้งแต่ก่อนเข้าอยู่ จนถึงกระทั่งย้ายเข้ามาอยู่แบบเต็มตัว สิ่งที่ได้คือ ไม่มีอะไรคืบหน้า แถมเพื่อนบ้านหลังดังกล่าว ยังบอกกับนิติฯ ว่าไม่ต้องมายุ่ง เดี๋ยวจะมาคุยกับเจ้าของบ้าน

นิติฯ แจ้งมาแบบนี้ เราก็โอเค ผ่านไป 1 เดือนไร้วี่แวว เจอหน้ากันแบบประชิดทิ้งระยะห่างสัก 3-4 เมตรได้ แต่ไม่มีการเอ่ยปากทักทาย หรืออธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น แถมยังคงทำอาหารต่อ เวลาซักผ้าทีไรก็จะได้ของแถมเป็นกลิ่นไข่เจียว หรือคะน้าหมูกรอบเกือบทุกที

2 อาทิตย์ถัดมา แอบดีใจ เพราะได้ยินเสียงเพื่อนบ้านคนเดิม คุยกับช่างวัดโน่นวัดนี่บนหลังคา ผ่านไปครึ่งวัน สรุปให้ช่างมาติดแอร์เพิ่ม ไม่ได้จะมาแก้ปัญหาเรื่องฮู้ดดูดควัน

ทนมาอีก 2 อาทิตย์ ช่วงเย็นแม่บ้านหอบผ้ามาซักตระกร้าใหญ่ เสร็จปั๊บตากปุ๊บ กลิ่นและควันพวยพุ่งมาแบบไม่มีกั๊ก ซึ่งจากกลิ่นที่เตะจมูกเดาว่าน่าจะปลาทอดขมิ้น มองหน้าแบบเลิ่กลั่กกับแม่บ้าน สงสัยวันนี้ต้องซักผ้าใหม่อีกรอบ

คราวนี้มาถึงจุดที่ต้องไปคุยเองแล้ว รอนิติฯ ไม่น่าจะได้เรื่อง ถึงหน้าบ้าน เราทักทายแบบสุภาพ โดยอัดเสียงไว้ “โทษนะครับ จะแก้เรื่องฮู้ดดูดควันได้เมื่อไหร่ เพราะเวลาที่บ้านคุณทำกับข้าว ทั้งกลิ่นทั้งควันมันมาแบบครบชุดเลย”

คำตอบที่ได้จากปาก คือ “ผมทำก่อนคุณจะมาอยู่อีก อีกอย่างก็แจ้งกับนิติฯ เรื่องแบบก่อสร้างไปแล้ว งั้นคุณก็ต่อเติมหลังบ้านบ้างสิ กลิ่นควันจะได้ไม่ไปรบกวนบ้านคุณ แล้วอีกอย่างเค้าก็ไม่เคยบอกกับทางนิติฯ ว่าจะแก้ไขให้

เราก็ตอบกลับไปว่า คุณมาคิดแทนผมไม่ได้ ว่าจะต้องต่อเติม เพราะเราต้องการปล่อยโล่ง ปลูกต้นไม้แบบที่ชอบ แล้วแบบที่บ้านคุณทำ มันไม่ถูกต้องตั้งแต่แรก ไม่รู้จริงๆ เหรอ ทำไมถึงตั้งใจปล่อยควันปล่อยกลิ่นให้เพื่อนบ้านได้ของแบบนี้ ซึ่งก็แอบสงสัยเหมือนกันว่าสมาชิกในบ้านไม่มีใครเตือนหรือแย้งกันก่อนทำเลยหรือ ว่าทำแบบนี้มันไม่ถูกนะ ทั้งๆ ที่หลังอื่นเค้ายังทำเป็นหมวกจีนขึ้นหลังคาได้เลย

ประโยคสนทนาจากนั้น เราและแม่บ้านก็เลยถามไปว่า แล้วจะหาทางแก้ไขกันยังไง คำตอบเดิมคือ ไม่แก้ ผมไม่แก้ ผมไม่ทุบ กลิ่นมันอาจจะมาจากบ้านหลังอื่นก็ได้ เห็นคาตาได้กลิ่นคาจมูก ยังแถไปโทษบ้านอื่น

คราวนี้ตัดสินใจโทรแจ้งนิติฯ โครงการอีกครั้ง 15 นาทีถัดมา นิติฯ ไปคุยกับเพื่อนบ้านผู้หวังดี สรุป ได้คำตอบเหมือนเดิม คือไม่แก้ไข อยากให้แก้ก็ให้ไปฟ้องเอา

ถ้าอย่างนั้น เราจะไปเทศบาล เนื่องจากมีหลักฐานครบ ตั้งแต่เริ่มสร้าง เตือนเจ้าของบ้านแล้ว ไม่อนุญาตให้ทำแบบนี้.

ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่มองว่า ปัญหาเพื่อนบ้าน ต่อให้เลือกบ้านดีแค่ไหน ถ้าเพื่อนบ้านไม่ดี ก็จะทำให้อยู่ไม่เป็นสุข ทั้งยังมองว่า ปัญหานี้ เพื่อนบ้านคนดังกล่าวแม้จะอยู่มาก่อน แต่ก็น่าจะคิดก่อนที่จะต่อปล่องควันมายังบ้านคนอื่น เพราะหากต่อเป็นท่อชี้ขึ้นไปแทน ปัญหานี้ก็จะไม่เกิดขึ้น รวมถึงนิติฯ น่าจะมีการจัดการที่เด็ดขาดกว่านี้

ที่มาจาก เฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 3