อาลัย สรพงศ์ ชาตรี พระเอกตลอดกาล จากไปอย่างสงบ
การจากไปของ สรพงศ์ ชาตรี ที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งปอด สร้างความเศร้าโศกเสียใจกับครอบครัว คนใกล้ชิด และแฟนละครอย่างมาก
เอก สรพงศ์ ชาตรี เป็นนักแสดงรุ่นใหญ่ระดับตำนาน มีผลงานการแสดงมาหลายเรื่อง อยู่ในวงการบันเทิงไทยมาหลาย 10 ปี การจากไปของ สรพงศ์ ชาตรี สร้างความเศร้าเสียใจกับคนในวงการบันเทิงและแฟนละครอย่างมาก โดยช่วงที่ผ่านมา เอก สรพงศ์ ได้หายหน้าไปจากวงการบันเทิงพักใหญ่ เนื่องจากไปรักษาตัวจากอาการป่วยด้วยโรคมะเ ร็ง
สำหรับ เอก สรพงศ์ ชาตรี ชื่อเดิมคือ กรีพงษ์ เทียมเศวต เกิดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2493 ที่อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จบการศึกษาชั้น ป.4 แล้วบวชเรียนตั้งแต่อายุ 8 ปี ที่วัดเทพสุวรรณ พระนครศรีอยุธยา และวัดดาวดึงส์ บางยี่ขัน ธนบุรี จนกระทั่งลาสิกขาบทเมื่อ พ.ศ. 2512 ปัจจุบันสมรสกับ ดวงเดือน จิไธสงค์ รองมิสไทยแลนด์เวิลด์ พ.ศ. 2529 และรองนางสาวไทย พ.ศ. 2530
สรพงศ์ ชาตรี ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในช่วงปลายยุค 70 ถึงกลางยุค 80 เเละยังคงทำงานในอาชีพการเเสดงมาจนถึงปัจจุบัน ได้รับเลือกเป็น ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ในปี พ.ศ. 2551
เมื่ออายุได้ 19 ปี และได้พบกับหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ซึ่งชักชวนให้มาอาศัยอยู่ที่วังละโว้ ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ สรพงศ์ เริ่มงานแสดงครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2512 เป็นตัวประกอบ และเป็นเด็กยกของในกองถ่ายละครเรื่อง นางไพรตานี ฉายทางช่อง 7 และเล่นเป็นตัวประกอบในละคร ห้องสีชมพู และ หมอผี ซึ่งหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล เป็นผู้กำกับหลังจากเดินทางกลับจากเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา
ชื่อ สรพงศ์ ชาตรี ที่ใช้ในการแสดง ผู้ตั้งให้คือ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ และหม่อมอุบล ยุคล ณ อยุธยา โดยคำว่า “สร” มาจาก อนุสรมงคลการ, “พงศ์” มาจาก สุรพงศ์ โปร่งมณี (ผู้พามาฝากตัวกับหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม) และ “ชาตรี” มาจาก ชาตรีเฉลิม
สรพงศ์ ชาตรี มีผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกเป็นตัวประกอบในภาพยนตร์เรื่อง สอยดาว สาวเดือน ยังรับบทเป็นตัวประกอบ ไม่มีบทพูด จากนั้นเรื่องที่ 2 ในปีเดียวกันคือเรื่อง ต้อยติ่ง ยังรับบทเป็นตัวประกอบเช่นกัน และเรื่องที่ 3 คือเรื่อง ฟ้าคะนอง ยังคงรับบทเป็นตัวประกอบที่ออกมาฉากเดียวแต่เริ่มมีบทพูด
และเรื่องที่ 4 คือเรื่อง มันมากับความมืด ในปี 2514 เป็นผลงานกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม จากนั้นได้รับบทในภาพยนตร์ของหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม แทบทุกเรื่อง ทั้งบทพระเอก พระรอง และเป็นผู้ช่วยผู้กำกับในบางครั้ง มีผลงานแสดงกว่า 500 เรื่อง ได้รางวัลตุ๊กตาทองครั้งแรกจากเรื่อง ชีวิตบัดซบ และ สัตว์มนุษย์ สองปีติดต่อกัน และมีชื่อเสียงในต่างประเทศจากเรื่อง แผลเก่า (พ.ศ. 2520) กำกับโดยเชิด ทรงศรี นับว่าประสบความสำเร็จสูงสุด
สรพงศ์ ได้รับรางวัลทางการแสดงจากหลายสถาบัน เช่น รางวัลตุ๊กตาทองพระสุรัสวดี ดารานำชายยอดเยี่ยม จากเรื่อง สัตว์มนุษย์ ชีวิตบัดซบ มือปืน มือปืน 2 สาละวิน เสียดาย 2 รางวัลสุพรรณหงส์ ดารานำชายยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง ถ้าเธอยังมีรัก มือปืน และนักแสดงประกอบชายจากเรื่อง องค์บาก 2 ส่วนรางวัลชมรมวิจารณ์บันเทิง นักแสดงชายยอดเยี่ยม จากเรื่อง มือปืน 2 สาละวิน
นอกจากงานในวงการบันเทิงแล้ว สรพงษ์ ชาตรี ยังได้ก่อตั้งมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) หรือที่คนรู้จักกันดีในชื่อ วัดสรพงษ์ ตั้งอยู่ที่ ริมถนนมิตรภาพ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ห่างจากตัวเมืองนครราชสีมาประมาณ 42 กิโลเมตร หากเดินทางจากกรุงเทพมหานคร ไปนครราชสีมาจะผ่าน และเห็นได้อย่างชัดเจนเพราะสะดุดตาในความสวยงามของอาคารที่ก่อสร้างและการตกแต่งสถานที่โดยรอบ
โดย สรพงศ์ เคยบอกว่า สถานที่แห่งนี้เป็นมูลนิธิ ไม่ใช่วัด แต่คนทั่วไปจะเรียกกันแบบเข้าใจง่ายๆ ว่า วัดหลวงพ่อโต อำเภอสีคิ้ว โดยในภายวัดแห่งนี้มักจะมีโรงทาน ที่ใครแวะเวียนผ่านไปมา สามารถแวะเข้าไปทานอาหารได้ โดยทานได้ฟรี และอาหารที่ขึ้นชื่อของโรงทานแห่งนี้คือ ราดหน้า ซึ่งที่ผ่านมาในช่วงที่ยังไม่มีโรถระบาด และ สรพงษ์ ยังไม่ได้ป่วย เจ้าตัวมักจะมาประจำการอยู่ที่นี่ มาคอยกล่าวต้อนรับนักท่องเที่ยวและแฟนคลับที่มาร่วมทำบุญอีกด้วย
ทางทีมงานต้องขอแสเงความเสียใตด้วยค่ะ
ขอบคุณ ไทยรัฐ
