ต้นแบบของการทำดี เมื่อไม่นานมานี้ ผู้ใช้เฟสบุ๊ก Torsak Sukvimol หรือ พลตำรวจตรีต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บังคับการถวายความปลอดภัย
และปฏิบัติการพิเศษดำรงตำแหน่ง ผู้บังคับการมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ๙๐๔ ได้ออกมาแชร์เรื่องราวที่ทำเอาน้ำตาซึมความว่า
แม่ป่ วยถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลจากที่หมอบอกมา อาการป่วยของแม่หนักมาก และแม่ก็ดูซูบผอมไปมาก เหมือนกับต้นไม้ในหน้าแล้ง ผอมแห้งซูบเซียว ผมของแม่เต็มไปด้วยหงอกสีขาว
นอนอยู่บนเตียงเล็กมีผ้าห่มสีขาวของโรงพยาบาลห่มอยู่ แม้ผมจะนั่งอยู่ที่นี่ แต่ยังคงห่วงงานที่บริษัท ผมรับโทรศัพท์ครั้งแล้วครั้งเล่า
ผมเป็นลูกคนเดียวของบ้าน พ่อก็จากไปแล้ว แม่ไม่ได้แต่งงานใหม่ เลี้ยงผมจนโตไม่ใช่เรื่องง่าย ตอนนี้แม่ต้องการผม ผมจะทิ้งแม่ไปได้อย่างไร แม้การอยู่ที่โรงพยาบาลในหนึ่งวันจะต้องสูญเสียรายได้ไปหลายแสนก็ตาม
ผมแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้ ผมเคยอุ้มลูก อุ้มภรรยาแต่ผมไม่เคยอุ้มแม่เลยสักครั้ง ไม่เคยคาดคิดว่าแม่จะตัวเบาอย่างนี้ น้ำหนักไม่ถึง ๔๐ โล แม่ผอมจนเห็นกระดูก ดูแม่จะค่อยข้างวิตก
อุ้มแม่ไหวไหม แม่ถามขึ้นมาดูเหมือนแม่จะไม่อยากให้ผมอุ้ม เพราะระหว่างแม่ลูกผมไม่เคยอุ้มแม่เลย แต่คนไข้อื่นๆ และญาติที่มาเยี่ยมรอบๆ ต่างก็พูดสรรเสริญว่า คุณโชคดีจังเลย มีลูกกตัญญู ให้ลูกอุ้มเถอะ รู้สึกยังไงบ้าง ดูเหมือนแม่น้ำตาคลอ ผมก็รู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรสักอย่างมาอุดอยู่ในอก
จึงรีบอุ้มแม่ไปที่ห้องปฏิบัติการ มือของแม่จับผมไว้แน่น แม่คงรู้สึกกลัว ผมรู้แม่คงไม่อยากให้ผมลำบาก แต่ต่อให้อย่างไรก็ตามแค่นี้มันยังน้อยไปเสียด้วยซ้ำกับสิ่งที่แม่เลี้ยงดูผมมา
อ้อมกอดของลูก คือของขวัญสุดวิเศษที่แม่ได้รับในวัยชรา ที่เงินทองก็หาซื้อมาไม่ได้ แม่บอกกับผมในคืนส่งท้ายปีเก่า พูดเสร็จแม่ก็ ร้ อ ง ไ ห้ ออกมา ลูกชายของผมเข้าไปกอดย่าและบอกว่า ย่าครับ หนูก็อยากกอดย่าเหมือนกัน ภรรยาของผมก็เข้ามากอดแม่และพูดว่า แม่ครับ หนูก็อยากกอดแม่เหมือนกันครับ
เรียบเรียงโดย Zeesociety.com