คุณเอกจิตรา กฤษณสุวรรณ หรือ คุณเตย วัย 31 ปี เจ้าของสวน Tonphet เรียนจบโบราณคดี เคยทำงานอยู่กับทีวี บูรพา การที่ต้องมาทำธุรกิจ บนพื้นที่สวนปาล์ม วิชาการที่ร่ำเรียนมาและประสบการณ์การทำงานในสายงานการสื่อสาร จึงแทบไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรเลยกับการจัดสรรพื้นที่สวนเกษตรที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์มาเนิ่นนาน ให้สามารถทำเป็นธุรกิจได้
เธอเล่าให้ฟังว่า “สวน Tonphet แห่งนี้ มันเริ่มมาจากการที่มีพื้นที่อยู่แล้ว ประมาณ 10 ไร่ อยู่ที่จังหวัดระนอง เมื่อประมาณ 25 ปีก่อน พื้นที่นี้เคยเป็นสวนทำพริกไทย แต่ด้วยสภาพพื้นที่ทำให้การปลูกพริกไทยไปไม่รอด เพราะพื้นที่จังหวัดระนองมีฝนมาก แดดไม่เพียงพอต่อการที่จะทำให้พริกไทยแห้งได้ จึงนำเอาปาล์มมาปลูกในพื้นที่นี้แทนตามธรรมชาติ สวนแห่งนี้จึงเป็นพื้นที่ว่าง ที่คุณพ่อมาใช้พักผ่อนในยามที่แกรู้ตัวป่วยเป็นโรคมะเร็ง เมื่อ 10 ปีก่อน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เตยตัดสินใจลาออกจากงาน เพื่อกลับมาอยู่บ้านเกิด
ตอนเริ่มต้นที่ตัดสินใจว่าจะต้องทำอะไรสักอย่างที่สวนนี้ ก็ทำเป็นร้านอาหาร การตอบรับถือว่าดีมากๆ แต่มันกลับไม่ตอบโจทย์พื้นที่ ที่เราต้องการให้เป็นจริงๆ เพราะเราขายอาหาร เปิดร้านขาย มันขายดีก็จริง แต่พอมาคิดเรื่องต้นทุน งบประมาณ รายจ่าย โน่นนี่ ความเหนื่อยของครอบครัวเรา แม่เรา มันกลับไม่คุ้มกัน ที่เขาเคยพูดกันว่า ขายดีจนจะเจ๊งมันมีจริงๆ ด้วย เพราะได้เรียนรู้มาแล้ว
เลยต้องกลับมาคิดว่า ตอนที่คุณพ่อป่วยมาอยู่ที่นี่ แกได้อยู่กับธรรมชาติ มีความสุขกับสิ่งแวดล้อม แต่พอมาทำร้านอาหารที่นี่ พื้นที่ตรงนี้กลับทำให้ครอบครัวเราเหนื่อยมาก มันก็ไม่น่าจะใช่แล้ว มันไม่ใช่การมาพักผ่อน ลูกค้ามาเพื่อแค่ทานอาหาร แต่ไม่ได้อะไรจากสิ่งที่เราตั้งใจเลย”
คุณเตยเลยต้องตัดสินใจอีกครั้งว่าต้องยกเลิกเมนูอาหารบางเมนูออกไป ร้านอาหารยังมีอยู่แค่บางส่วนเท่านั้น แต่จะมีไม่มากเท่าเดิม เพราะต้องการชูจุดเด่นอย่างอื่นของพื้นที่แห่งนี้แทน เพราะความพิเศษของพื้นที่ที่นี่คือ มีพื้นที่ติดกับลำธารขนาดใหญ่ มีพื้นที่ที่จะสามารถจัดกิจกรรม ตั้งแคมป์ได้ และมีพื้นที่มากพอที่จะสามารถปลูกผักอย่างอื่นได้ด้วย เธอจึงจัดการบริหารพื้นที่แบบใหม่
โดยการนำเอาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นแนวทางในการปรับปรุงพื้นที่ในการปลูกพืชผล และจัดสรรพื้นที่ในการทำกิจกรรมต่างๆ ของที่สวน Tonphet แห่งนี้ใหม่ อีกทั้งยังมีความต้องการที่จะให้ลูก ที่ไม่ได้เกิดร่วมสมัยการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ให้เขาได้เรียนรู้ว่า อาชีพที่พ่อแม่ทำตอนนี้ การทำสวน ทำไร่ ไม่ได้เป็นอาชีพของคนไม่มีเงิน หรือทำอะไรไม่ได้
การแบ่งพื้นที่ ดังนี้ พื้นที่หลักส่วนใหญ่ ที่เป็นสวนปาล์มเดิม ก็ยังอยู่ ปลูกแซมด้วยมังคุด และจัดสรรเอาพื้นที่บางส่วนที่จำเป็นต้องโค่นปาล์มลง เพื่อรับแสงแดด มาปลูกพืช แบ่งเป็น 4 ส่วน คือ ทำแปลงผัก พืชรอบเร็ว 1 ส่วน เช่น ผักบุ้ง คะน้า อื่นๆ หมุนเวียนกันไป, ผักสวนครัว อย่างมะเขือ โหระพา ตะไคร้ 1 ส่วน และอีก 2 ส่วนของพื้นที่ที่เหลือ ก็ปลูกพืชสมุนไพร อย่างพวก ขมิ้น ขิง
คอนเซ็ปต์ใหม่ของสวน Tonphet จึงเป็นพื้นที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนและการทำกิจกรรมร่วมกันของครอบครัว เหมาะกับกลุ่มคนที่ต้องการพักผ่อนจริงๆ อย่างผู้สูงอายุ ครอบครัว หรือกลุ่มที่ต้องการเรียนรู้ ดูงาน ตั้งแคมป์
สำหรับกิจกรรมของที่นี่ คุณเตย บอกว่า “พอปรับพื้นที่ใหม่ กิจกรรมจึงมีให้ลูกค้าหลากหลายมากขึ้น ที่นี่มีการเวิร์กช็อปต่างๆ เช่น ทำลูกประคบไว้ใช้เอง มีพื้นที่สปา การนวดตัว การทำน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น อย่างโลชั่น ลิปบาล์ม น้ำหอมแห้ง การทำไส้กรอกไข่เค็ม เป็นต้น โดยการจัดกิจกรรมรูปแบบนี้ เตยทำร่วมกับเพื่อนๆ ที่เขาก็กลับมาอยู่บ้านเกิดเพื่อพัฒนาธุรกิจในพื้นที่ จ.ระนอง และเพื่อนที่รู้จักกัน มาช่วยกันพัฒนาพื้นที่ สร้างกิจกรรมเป็นภาคีร่วมกัน
ซึ่งการทำแบบนี้ ตอบโจทย์สิ่งที่คิดและสิ่งที่ครอบครัวเราต้องการตามคอนเซ็ปต์ที่ว่า พื้นที่สร้างความสุข และการพักผ่อน มันตอบโจทย์มาก คนที่มาที่นี่ได้มาสัมผัสกับธรรมชาติ สิ่งที่เราได้ไม่ใช่แค่เงิน แต่เป็นความสุขของคนที่เข้ามาหาเราที่นี่ด้วย คนในครอบครัวเราได้มาใช้พื้นที่ตรงนี้ร่วมกันอย่างสนุกสนาน มีความสุข”
สำหรับใครที่อยากไปสัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติ และการพักผ่อน สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ (083) 710-1691
ขอบคุณที่มา https://www.technologychaoban.com/ (เส้นทางเศรษฐีออนไลน์) คุณวัชรี ภูรักษา